วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การหาเช่า โฮสติ้ง หรือเซิฟเวอร์ ในการทำเว็บ

เรามาสรุปสั้นๆกันอีกครั้งว่าการทำเว็บ ต้องทำอย่างไรกันบ้าง เริ่มเลย
1.จดโดเมน
2.เช่าโฮสติ้ง
3.ใช้เว็บสำเร็จรูป หรือ จ้างทำเว็บ
4.เริ่มการประชาสัมพันธ์เว็บ
วันนนี้เรามาถึงขั้นที่ 2 คือการหาโฮสติ้ง หรือ เซิฟเวอร์ เปรียบเสมือน ฮาร์ดดิส ที่ใช้เก็บเว็บไซด์เรา ซึ่งต้องเช่าเขา ก่อนที่จะเช่า เราก็ต้องมาดูว่า ในข้อ 3 เราจะใช้แบบใหน ใช้เว็บสำเร็จรูปก็เสร็จเร็ว เพราะเขาจัดให้เรียบร้อย เราไม่ต้องปวดหัว แค่เข้าไปอัพเดทข้อมูลร้านค้าเท่านั้น แต่ถ้าจ้างเขียน ก็ต้องมาดูว่า คนที่เราจ้างมาทำเว็บ เขาพัฒนาเว็บเราด้วยโปรแกรม ภาษาอะไรกัน เพราะ โฮสติ้ง มี สองระบบ คือ windows หรือ Linux เราก็ต้องมาดูว่าเนื้อหาและความซับซ้อนของเว็บเราเป็นยังไง ดังนี้เลย
1.แบบ Html ธรรมดา อันนี้เป็นเว็บ ธรรมดา ไม่มีโปรแกรมอะไร ไม่ต้องใช้ฐานข้อมูล สามารถมีแฟลซ หรือใช้ จาวาสคริปต์เพิ่มลูกเล่นได้
2.โฮสติ้ง windows รองรับ โปรแกรมภาษา ASP และ PHP ปัจจุบัน เขามัก ติดตั้ง ให้ เซิฟเวอร์ windows รองรับได้สองภาษาครับ โฮสติ้งแบบนี้ ราคาจะสูงพอควร
3.โฮสติ้ง Linux จะรองรับได้เฉพาะ PHP ครับ ราคาจะถูกเหลือเชื่อเลยครับ บางที 1 GBไม่กี่ร้อยบาท/ปี กันแล้ว นะครับ
การเลือกโฮสติ้ง ผมว่าให้ผู้พัฒนาเว็บเป็นคนเลือกให้ดีกว่าครับ
อย่างของที่นี่
PT Host

เขาแบ่งให้เล็กลง สำหรับเว็บเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่ม ไม่ต้องการใช้เยอะก็จ่ายน้อยหน่อย ไม่เปลือง และยังเหมาะกับพวกนักเรียนนักศึกษา เอาไว้ทำโปรเจ็ค เป็น portfolio เวลาสมัครงานได้ด้วย

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Domain ฟรีๆ ไม่ต้องเสียตังค์ เร่เข้ามา

ในบทความตอนที่แล้ว พูดถึงขั้นตอนการจดโดเมน ซึ่ง มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 300-800 บาท/ปี แล้วแต่ แต่ละที่ และนามสกุลที่จด
แต่มาวันนี้ จะแนะนำให้ท่านที่เพิ่งเริ่มต้น และมีงบจำกัดจริงๆ
ลองดูบริการ โดเมนฟรี ของที่นี่ครับ ลองคลิกเข้าไปดู และ สมัครได้เลย
CO.CC:Free Domain
เขาให้ใช้บริการฟรี 1 ปี สามารถกำหนด DNS เองได้ หรือจะให้ forward/redirect ไปที่หน้าเว็บที่เรามีอยู่แล้วก็ได้ สะดวกดีครับ

วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552

จดโดเมนผิด เหมือนฆ่าตัวตาย

โดเมนเนม หรือ Domain เป็นชื่อของเว็บไซด์ ที่จะเป็นตัวแทนร้านของเรา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเลือก โดยใช้ความคิด อย่างหนัก ไม่ใช่เลือกส่งเดช ไปงั้นๆ
ที่บอกว่า มันสำคัญ เพราะเป็นด่านแรกเลยที่จะดึงคนมาเข้าเว็บ ลองนึกดูสิครับ ถ้าชื่อ มันเรียกยาก จำยาก ยาวไป สะกด ยาก จบไม่ต้องแจวแล้ว
ชื่อโดเมน ต้องเป็นชื่อภาษาอังกฤษ เท่านั้น แต่มีข้อยกเว้น คือ ในปัจจุบัน คุณสามารถจดชื่อไทย ไม่ต้องมี .com ต่อท้ายได้ ยกตัวอย่างเช่น คุณจดว่า พิซซ่า , เจลล้างมือ เมื่อใครพิมพ์ คำว่า พิซซ่า ก็จะมาร้านเราเลย อันนี้ ยกไว้ก่อน ไว้คราวหน้าค่อยพูดกันอีกที ว่าจะจดได้ที่ใหน อย่างไร
การจดโดเมน ปัจจุบัน มีหลายนามสกุล แรกเริ่ม ก็เป็น .com ต่อมาเมื่อ มีคนจดมากขึ้น มันก็เริ่มไม่พอ เขาจึง เพิ่มให้จด .net .org .gov
แต่ที่อัมตะ และเป็นที่จดจำได้ง่ายเลย ก็ .com แต่ถ้าสุดวิสัยจริงๆ ก็ต้องเป็น .net ถ้าเป็นองค์กร ก็ต้องเป็น .org ถ้าเป็นหน่วยงานราชการ ก็ต้องเป็น .gov
ปัจจุบัน ก็ไม่พออีก เขาจึงเริ่มให้แยกจด เป็นประเทศ เช่น .co.jp ของไทย ก็ .co.th , .in.th ,.go.th พอเข้าใจบ้างนะครับ
คราวนี้ เราจะเช็คได้อย่างไร ว่าโดเมน มันว่างให้เราจดหรือเปล่า หรือมีใครชิงตัดหน้าจดไปแล้ว ก็มาที่นี่เลยครับ
http://www.checkdomain.com/ พิมพ์ชื่อและนามสกุล โดเมนเข้าไป เช่น myshop.com , myshop.net,myshop.org แล้วถ้า ผลการค้นหาแจ้งว่า this domain still available ก็แสดงว่า ว่างครับ จดโลดเลย ช้า แย่นะ
ถ้าผลการค้นแจ้งว่า this domain already registered ก็ต้องแสดงความเสียใจ ลองค้นลองหาไปครับ
มาสรุปหลักการเลือก โดเมนก่อนเลยก็ได้ครับว่ามีอะไร ต้องพิจารณากันบ้าง
1. ชื่อควรสั้น เพื่อให้ง่ายแก่การจดจำ แต่ ก็ต้องสื่อถึงสินค้าของเราด้วย หรือชื่อร้านเรา ไม่ใช่ สั้นแบบ ABC.com (ชื่อนี้มีคนจดไปแล้วครับ)
2.ถ้าเป็นชื่อที่สะกดจากชื่อไทย ระวังนะครับ เพราะมีโอกาศสะกดผิดกันเยอะมาก เช่นคำว่าเพื่อน คุณคิดว่า ทุกคนจะสะกดออกมาได้เหมือนกันหรือเปล่าครับ
3.ถ้าให้ดี ควรจดทั้ง .com .net เพื่อดักไว้ครับ เผื่อบางคน จำผิด ก็ยังเข้ามาหาเราได้ บางที่เขาจดชื่อที่คิดว่า ลูกค้ามีโอกาศสะกดผิดเป็นชื่อนั้นไว้ด้วยครับ เช่น
บริษัท เบนซ์ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ ถ้าผิดก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยครับ

ได้หลักการคร่าวๆ แล้วนะครับ
การตัดสินใจเลือกบริษัท ที่จะให้บริการจด โดเมน ควรเลือก บริษัท ที่จดแล้ว ให้เราสามารถ เป็นเจ้าของได้เองจริงๆ นั่นคือ สามารถแก้ไข DNS ได้เอง เปลี่ยนแปลงรายละเอียดใน ส่วนของเจ้าของ โดเมน ได้เอง จริงๆ และต้องเลือก บริษัทจดโดเมน ที่มั่นคง เพราะถ้าเน้นถูกอย่างเดียว แล้วเกิดวันใหน พี่แกเผ่นไป เลิกไป คราวนี้หละ เราต้องวุ่น เพราะไม่รุ้ว่าจะต้องไปต่อโดเมนยังไง กับใคร จะย้ายก็ติดต่อ บริษัทนี้ไม่ได้ เพราะย้ายโดเมน ต้องให้บริษัทเดิม แจ้ง authorize code และ เปิดล็อค ให้บริษัทใหม่ เข้าทำการแทน ครับ จึงจะแจ้งให้นายทะเบียนทราบและทำการย้ายได้

เป็นไงบ้างครับ แค่เริ่มต้น ก็ต้องใช้ สมอง แทบระเบิดเลย นะครับ แต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ

P&T Hosting Co., Ltd. :: บริการ  จดโดเมนเนม  เว็บโฮสติ้ง  VPS  Co-location

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เว็บไซด์ ช่วย SME ได้อย่างไร

ในสภาวะการณ์ ปัจจุบัน เป็นที่ทราบกันดีว่า เศรษฐกิจ ทั่วโลก ดิ่งลงเหว และคงต้องใช้เวลาอีกยาวนาน พอควร
ในขณะที่ การทำการค้า ก็ต้องแข่งกันอย่างดุเดือด ด้วยกลยุทธต่างๆ มากมาย นอกเหนือจาก 4P ทางการตลาด ที่
ได้ร่ำเรียนกันมา
ปัจจุบัน อินเตอร์เน็ท ได้ขยายตัวเข้าไปอยู่ในทุกครัวเรือน เหมือน ทีวี วิทยุ พัดลม ซึ่งต้องมีทุกบ้าน และต้องใช้กันเป็น
และมีในทุกบริษัท ห้างร้าน เพราะฉนั้น อินเตอร์เน็ท จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ในการที่จะช่วย ให้ผุ้ประกอบ สามารถเข้าถึงผุ้
บริโภคได้
บริษัท จึงควรมีเว็บไซด์ ขององค์กรตัวเอง เพื่อ แนะนำตัว แนะนำสินค้า ให้ผุ้ใช้อินเตอร์เน็ท ได้รับทราบ ถึงผลิตภัณฑ์ บริการ ต่างๆ
ของท่าน
สรุปแล้ว การมีเว็บไซด์ มีประโยชน์มากมาย พอสรุปได้ดังนี้
1.เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์สินค้า บริการ ที่มีต้นทุนถูกมาก เมื่อเทียบกับสื่ออื่นๆ เช่น โบว์ชัวร์ สิ่งพิมพ์ ทีวี วิทยุ ฯลฯ
2.สามารถเปิดร้านค้า ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด
3.ไม่มีค่าน้ำ ค่าไฟ เงินเดือนพนักงาน
4.สามารถเปิดร้าน ให้คนทั่วโลก สามารถที่จะเข้ามาเยี่ยมชมสินค้า ได้ 24 ชั่วโมง
5.สามารถสื่อสารกับลูกค้า ได้มีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ประหยัดกว่าการใช้ โทรศัพท์ แฟกซ์ โดยสามารถ
พูดคุยผ่านหน้าเว็บ แทนการใช้โทรศัพท์ สามารถส่งอีเมล์ แทน จดหมาย แฟกซ์ ซึ่งมีต้นทุน และใช้เวลานานกว่า
6.ช่วยสร้างแบรนด์ และ image ภาพลักษณ์ ให้กับสินค้า และ บริษัท ได้เป็นอย่างดี
นี่ก็คงจะเห็นแล้วนะครับ ว่าการมีเว็บไซด์ จะช่วย SME ได้อย่างไร
คราวหน้า เราจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับการมีเว็บไซด์ ว่า SME ต้องเตรียมการอะไรบ้าง

วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552